ผมชื่อคีไน ครับ
การผจญภัยของผม
ผู้เข้าชมรวม
417
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผมชื่อ คีไน เป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องสามคนที่เป็นชายล้วน บ้านผมอยู่ในดินแดนไกลโพ้นที่เต็มไปด้วยป่าเขาลำเนาไพรกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เป็นชุมชนเก่าๆเล็กๆ ซึ่งมีตำนานเกี่ยวกับแสงเหนือแสงแห่งชีวิตที่เล่าขานกันว่า เมื่อสรรพสิ่งในโลกนี้ตายแล้วจะกลายเป็นแสงอยู่เหนือหุบเขาที่มีแสงนี้ปรากฏอยู่เต็มท้องฟ้า และเผ่าของเรามีประเพณีในการให้สัญลักษณ์เป็นรูปสัตว์ต่างๆเมื่อเขาสู่วัยเติบใหญ่ เพื่อให้สัญลักษณ์เหล่านี้นำพาชีวิตเราไปตลอดกาล พี่ชายคนโตของผมชื่อ ซิทกา เขาได้สัญลักษณ์รูปนกอินทรีย์ ที่แทนลักษณะความเป็นผู้นำสูงมีมุมมองกว้างไกล พี่ชายคนรอง ได้รับสัญลักษณ์เป็นหมาป่า ตัวแทนแห่งความมีปัญญา เฉลียวฉลาด ซึ่งพี่รองชื่อว่า เดนาฮี มักจะเป็นไม้เบื่อไม่เมากับผมอยู่เรื่อย แต่ถึงอย่างไรเราทั้งสามคนก็รักใคร่กันดี
และเมื่อถึงวันที่ผมต้องไปรับสัญลักษณ์ประจำตัวของผมบ้าง ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก และหวังว่าผมจะได้สัญลักษณ์ที่เป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่บ้างในความคิดของผมตอนนั้น ณ ที่บริเวณหน้าผาแห่งบรรพชนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ประจำเผ่าของเรา ตามฝาผนังจะมีรอยรูปฝ่ามือของบรรพบุรุษของเราเต็มไปหมด ผู้คนทุกคนในเผ่าไฝ่ฝันที่จะได้ประทับมือบนผนังหน้าผาแห่งนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงของเผ่าเรา และแล้วนาทีระทึกใจก็มาถึง สุดท้าย แม่เฒ่าผู้อาวุโสประจำเผ่าได้มอบสัญลักษณ์แก่ตัวผมเป็นรูปหมี ซึ่งแสดงถึงความมีความรักให้แก่พวกพร้องให้แก่ผม แต่ผมกับรู้สึกว่าน่าจะได้สัญลักษณ์สัตว์ที่แข็งแรงแข็งแกร่งมากกว่า ผมรู้สึกน้อยใจมาก แถมพี่เดนาฮี ก็กับล้อเลียนผมว่ามีสัญลักษณ์แห่งความรัก ก็จะเป็นผู้มีเสน่ห์กับเหล่าสาวๆ ซึ่งผมไม่ชอบเลย
ต่อมาระหว่างการเดินทางกลับ ผมพบว่ามีหมีตัวหนึ่งได้มาขโมยอาหารที่ผมรับหน้าที่ดูแลและได้ผูกทิ้งไว้กับต้นไม้ ทำให้ผมโมโหมาก ทำไมชีวิตผมต้องมาเกี่ยวข้องกับเจ้าหมีขี้ขโมยเหล่านี้ด้วย พี่เดนาฮี ก็โทษว่าผมเป็นคนทำให้ตระกร้าที่ใส่อาหารถูกหมีถูกทำลายไปด้วย ทำให้ผมยิ่งโมโหหนักเขาไปอีก ผมจึงได้ติดตามหมีนั้นไปด้วยการสะกดตามรอยเท้าของมัน โดยไม่ฟังคำทัดทานของใคร พอผมเผชิญหน้ากับหมีเข้า มันเป็นหมียักษ์กริซลี (หมีสีน้ำตาล) ผมจึงเข้าต่อสู้กับมันไปจนเลยถึงหน้าผาแห่งหนึ่งขณะที่ผมกำลังจะเสียท่า พอดีพี่ชายทั้งสองตามมาช่วยผมไว้ทัน แต่ระหว่างที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น ซิทกา พี่ชายคนโตของผมได้ช่วยผมไว้โดยที่เขาได้พลัดตกหน้าผาลงไปพร้อมๆกับเจ้าหมีนั้นลงสู่สายน้ำเบื้องล่าง ผมและพี่รองเฝ้ายืนมองจากหน้าผาเห็นมีเพียงหมีเท่านั้นที่ยังรอดชีวิต แต่พี่ซิทกา หายไปกับสายน้ำเสียแล้ว ผมและพี่เดนาฮี ได้พยายามค้นหาเขาจนทั่วแหล่งน้ำนั้น แต่ก็ไม่เห็นวี่แววแม้แต่เงา อนิจจา พี่ซิทกา จากผมไปเสียแล้ว
นั่นเป็นเพราะเจ้าหมีตัวนั้นนั่นเอง ผมต้องตามล่ามันเพื่อแก้แค้นมันให้ได้ แม้พี่เดนาฮี จะเตือนสติผม ตอนนี้อย่างไรก็เอาไม่อยู่แล้ว ผมไม่อยากให้หมีนั่นมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แค้นนี้ต้องชำระ ผมตามหมีตัวนั้นไปจนถึงบนยอดเขาสูง และได้เกิดการต่อสู้กันขึ้น ให้รู้ไปสิว่าใครจะอยู่ใครจะไป สุดท้ายผมฆ่ามันได้ แต่ให้ตายสิ ผมเห็นแสงรอบๆตัวผมแล้วผมก็สลบไป พอรู้สึกตัวอีกครั้งทำไมมือผมมีขนเต็มไปหมด และแล้วผมก็กลายร่างไปเป็นหมี ระหว่างนั้นผมยังคับคลายคับคลาว่า ได้ยินเสียงของแม่เฒ่าประจำหมู่บ้านพูดกับผมว่า ผมได้กระทำสิ่งที่ผิดมหันต์ ผมทำผิดอะไรกัน? หมีนั่นต่างหากที่ผิด และผมได้แก้แค้นให้พี่ซิทกาแล้ว แต่ทำไมผมกับกลายเป็นหมีไปเอง งั้นผมต้องรีบไปที่ภูเขาที่มีแสงเหนือแห่งชีวิตอยู่ เพื่อให้วิญญาณของพี่ซิทกาช่วยผม แต่ภูเขานั่นอยู่ที่ไหนนะ? ผมจะไปที่นั่นได้อย่างไรกัน?
แต่ได้เกิดสิ่งแปลกประหลาดเข้ากับผมในร่างของหมี คือทำให้ผมได้ยินเสียงสารพัดสัตว์ต่างๆพูดคุยกันอย่างเข้าใจได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง กวาง กระรอก นก ฯลฯ พอผมถามถึงทางไปภูเขาที่มีแสงเหนือแห่งชีวิตไม่เห็นมีใครตอบผมได้สักคน ขณะที่ผมเดินหลงอยู่นั้น ผมดันไปติดกับดักสัตว์ของเหล่านายพราน ทำให้ขาผมถูกห้อยติดกับต้นไม้ แล้วผมก็พบหมีน้อยนามว่า โคด้า เขาบอกว่าจะช่วยผม แต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าเนื่องจากเขาหลงทางกับแม่หมี แต่คิดว่าจะกลับไปที่แม่น้ำที่มีปลาอยู่เยอะๆ ซึ่งแม่ของเขาอาจจะรออยู่ที่นั่นก็เป็นได้ เจ้าโคด้าบอกว่า ที่แม่น้ำนั่นอยู่ใกล้ๆกับภูเขาที่มีแสงอยู่บนยอดเขา เราจึงตกลงจะเดินทางไปด้วยกัน
แ ต่ในระหว่างทางผมก็ได้เจอกับพี่เดนาฮี ซึ่งเขาจำผมไม่ได้ เขาตรงเข้าทำร้ายผม ผมต้องหนีการตามล่าของเขา ผมไม่อยากทำร้ายเขา เราเป็นพี่น้องกัน ผมและโคด้าต้องคอยหลบเขาอยู่เรื่อยๆ ผมคิดว่าวิธีแก้ไขคือ ต้องรีบหาภูเขาแสงเหนือแห่งชีวิตให้พบเร็วที่สุด เพื่อพี่ซิทกาจะสามารถกลายร่างผมให้กับกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง ไม่อย่างงั้นพี่เดนาฮี ก็คงจะตามล่าผมอยู่อย่างนี้
ส่วนเพื่อนร่วมทาง เจ้าหมีน้อยโคด้า ก็เอาแต่พูดเอาพูดเอาทั้งวัน จนผมรู้สึกเบื่อเขามากขึ้นทุกวัน เราต้องเดินทางไกลและต้องการลบรอยเท้า จึงอาศัยความช่วยเหลือจากฝูงช้างแมมมอทในการเดินทาง ซึ่งเราก็มีเพื่อนใหม่เป็นกวางมูสเขาใหญ่สองพี่น้องที่บอกว่าขอตามไปด้วย สองพี่น้องนี้ชอบทะเลาะกันและเล่นถามตอบคำถามโง่ๆกัน ซึ่งผมก็ไม่อยากสนใจกวางทั้งคู่มากนัก แค่เจ้าโคด้าตัวเดียว ผมก็เบื่อมันจะแย่อยู่แล้ว
ผมพะวงอยู่ว่า ถ้าเจอพี่เดนาฮี อีกครั้งจะต้องหนีเขาให้รอดได้อย่างไรดี ทำไมนะ? ทำไมเขาต้องจ้องทำร้ายผมด้วย แต่ก่อนเขาไม่เห็นเป็นคนแบบนี้เลย ผมต่างหากเป็นคนที่คิดว่าจะล่าหมีที่ฆ่าพี่ซิทกา เขาเป็นคนคอยห้ามปรามไม่ใช่หรือ แต่นี่กับไม่ใช่ เขาตามล่าผมอย่างไม่ลดละเลย
ในที่สุด ผมก็เดินทางจนถึงแม่น้ำที่เจ้าโคด้าบอก เราพบว่ามีลำธารน้ำที่มีปลาแซลมอนมากมายและอุดมสมบูรณ์ ผมเจอหมีตัวใหญ่ๆที่รู้จักกับเจ้าโคด้า แต่ยังไม่เจอแม่ของโคด้า ผมได้หัดจับปลาอยู่ท่ามกลางหมียักษ์ ตอนแรกๆ ผมรู้สึกกลัวพวกเขาจนตัวสั้น แต่ว่าพวกเขาน่ารักดี ชอบชวนผมคุย สอนวิธีจับปลา แถมยังใจดีด้วย แต่ละตัวไม่โหดร้ายหรือเกเรอย่างที่คิดไว้เลย ผมชักชอบที่นี่แล้วสิ พวกเขาเล่นเกมแปลกๆมีอยู่เกมหนึ่ง คือ การโยนปลาไปที่ใคร คนนั้นรับปลาไว้จะต้องเล่าเรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองพบเจอที่ผ่านมา ทุกคนเราเรื่องที่น่าฟังมาก พอมาถึงเจ้าหมีน้อยโคด้า เล่าว่า เขากับแม่ได้ไปพบกับมนุษย์ที่ใจร้าย คอยตามล่าเขากับแม่ แม่บอกให้เขาซ่อนตัวและได้ทำการต่อสู้จนแม่ได้ตกลงจากหน้าผาสู่แม่น้ำพร้อมกับมนุษย์คนหนึ่งแล้วแม่ก็รอดมาได้ เอทำไมผมว่าเรามันคุ้นๆนะ ต่อมาโคด้าเล่าต่อว่า มีมนุษย์ตามมาทำร้ายแม่อีก หลังจากแม่บอกให้ผมหลบซ่อนแล้ว แม่ก็ล่อมนุษย์ให้ไปต่อสู้ที่ไกลๆจากที่ซ่อนตัวผม แล้วโคด้าก็ไม่ได้พบแม่อีกเลย เขาคิดว่าจะได้พบแม่ของเขาที่นี่แต่ก็ยังไม่เห็นเลย ให้ตายสิ นั่นมันเรื่องเดียวกับผมนี่ อะไรกัน ทำให้ผมย้อนคิดไปถึงคำพูดของแม่เฒ่าว่า "เจ้าทำสิ่งผิด" ผมทำอะไรลงไปนี่? ทำไม ผมรู้สึกเสียใจมากที่รู้ว่าตัวเองเป็นคนฆ่าแม่ของโคด้าตาย ผมจะทำอย่างไรดี ผมได้ทำสิ่งที่ร้ายแรงลงไป ผมต้องขึ้นไปที่ภูเขาแห่งแสงเหนือชีวิตให้เร็วที่สุดเพราะไม่แน่ว่าพี่เดนาฮี จะตามมาทันเมื่อไหร่ ถ้าเกิดเขาพบหมีพวกนี้เข้า จะเกิดอะไรขึ้น? ผมไม่อย่างให้เขาทำอะไรผิดๆเหมือนผมอีก
ผมเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง เพราะที่นี่ใกล้จุดหมายของผมแล้ว แต่พอเริ่มเดินทาง ให้ตายสิ ผมเจอพี่เดนาฮี ที่ตามมาติดๆ ผมต้องคอยหลบหนีเขาเพื่อไปให้ถึงยอดเขาให้ได้ โดยผมได้แยกทางกับโคด้า โดยทิ้งเขาไว้กับฝูงหมีที่แม่น้ำ
สุดท้ายผมก็มาถึง ยอดภูเขาแห่งแสงเหนือชีวิต ผมตะโกนเรียกหา พี่ซิทกาอย่างกึกก้อง แต่ผู้ปรากฏกายกับเป็น พี่เดนาฮี ที่ตามล่าผมอย่างไม่ย่อท้อ เราต่อสู้กันอีก แถมเจ้าโคด้าก็แอบตามผมมาด้วย ทำให้ผมกังวลใจมากขึ้น ผมเริ่มรู้สึกหนักใจกับการที่เคยเป็นผู้ล่า แต่ตอนนี้ผมกลับถูกตามล่าเสียเอง แล้วผมจะทำอย่างไรนี่ พี่ซิทกา อยู่ที่ไหนกัน ผมตะโกนสุดเสียง
ต่อมาผมเห็นแสงแห่งชีวิตพุ่งเต็มท้องฟ้า ฉับพลันผมก็เห็นนกอินทรีย์บินเข้ามา พี่ซิทกา นั่นเอง เกิดมีแสงมากมายรอบตัวผม แล้วผมก็กลับกลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้ง ต่อหน้าพี่เดนาฮี และโคด้า แต่เมื่อผมมองดูโคด้า เห็นเขาตกใจมากที่เห็นผม เขาถอยห่างผม ใช่แล้ว ผมนี่แหละฆ่าแม่เขา ฆ่าแม่อันเป็นสิ่งเดียวที่เขารักและเหลืออยู่ ต่างจากผมที่ยังมีพี่เดนาฮี และพวกผ้องครบถ้วน ผมคิดว่าถ้าผมกลับไปอยู่ในเผ่า แล้วโคด้าจะอยู่กับใคร? ผมเป็นคนทำผิดอย่างมหันต์ เป็นบทเรียนที่ไม่น่าให้อภัย ผมรู้ว่าต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผมผิดพลาดไปแล้ว ผมจึงตัดสินใจขอร้องให้พี่ซิทกาเปลี่ยนผมให้กลับกลายเป็นหมีอีกครั้งหนึ่ง ส่วนพี่เดนาฮี พอรู้ว่าหมีที่เขาตามล่าคือผม เขาก็เข้าใจเรื่องราวแล้ว และยินดีในสิ่งที่ผมเลือก ใช่สิ ต่อไปนี้ ทั้งหมีและคนจะไม่ทำร้ายกันอีก แล้วพี่เดนาฮี ก็ได้มอบสัญลักษณ์รูปหมีคล้องคอผมไว้ หมีที่มีแต่ความรัก ผมพึ่งรู้ซึ่งถึงความหมายของมันจริงๆก็ครั้งนี้แหละ นับแต่นั้นมา ผมก็ได้มีโอกาสกลับไปเที่ยวหาพี่รองที่เผ่าอีกครั้ง ผมพบผู้คนที่พร้อมใจที่จะให้ผมประทับรอยมือ(เท้า) บนฝาผนังของบรรพบุรุษว่า ผมก็ยังเป็นสมาชิกคนหนึ่งของเผ่านี้
ผมภูมิใจมาก ถึงผมจะเรียนรู้ประสบการณ์ จากความเข้าใจผิดมากมายจนเกือบเอาตัวไม่รอด ผมก็ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงอันมีค่าให้กับตัวเอง ซึ่งทำให้ผมตระหนักคำว่า "เอาใจเขา มาใส่ใจเรา" เป็นอย่างดี นับจากนี้ไปผมจะใส่ใจกับคุณค่าของชีวิต ไม่ว่าเขาจะเป็นสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ คนเล็ก คนใหญ่ มันเป็นมุมมองชีวิตที่ตรงกันข้ามกันเลย กับเหตุการณ์นี้ การเป็นผู้ล่า ที่มีแต่ความโกรธแค้น โหดร้าย ส่วน ผู้ถูกล่า กับมีแต่ความหวาดกลัว หวาดผวา ระแหวดระวัง เหมือนกับตอนที่หมีน้อยโคด้า เคยบอกผมไว้ว่า สัตว์ส่วนใหญ่จะกลัวเจ้าปีศาจร้ายที่สุด ซึ่งก็คือ มนุษย์ที่มาปรากฏตัวพร้อมกับความโหดเหี้ยมทุกครั้ง และในการเผชิญหน้ากัน ผู้แพ้กับกลายเป็นพวกสัตว์ต่างๆนี่เอง เพราะถึงแม้ว่าระหว่างสัตว์เองด้วยกันแล้วเหล่าสัตว์จะมีตกเป็นเหยื่อกันบ้าง แต่ก็เป็นไปตามวีถีทางแห่งธรรมชาติเป็นวัฎจักรหรือวงจรชีวิต หาใช่การไล่ล่ากันเพียงเพราะความโกรธแค้น ที่มีอานุภาพทำลายล้างมากมายกว่ากันหลายเท่า ใช่สิ ถึงสัตว์จะทำร้ายกันโดยจุดประสงค์เพื่อเป็นอาหาร ซึ่งก็มีข้อจำกัดอยู่ที่ความอิ่มและเพียงพอในแต่ละมื้อ ต่างจากมนุษย์ที่ฆ่าไว้จนเกินพออิ่มมากมาย โดยสามารถวัดได้จากกิจกรรมของชีวิตในแต่ละวันก็จะเห็นได้ชัด คือ สัตว์มีกิจกรรมประจำวันแค่เพียง หากิน-อิ่ม-นอน-เล่น เท่านั้น ต่างจากมนุษย์ริบลับ ที่ใช่เวลาหากินเกือบทั้งวัน มากกว่ากิจกรรมอื่นๆในแต่ละวันเสียอีก จากนี่ไปผมจะตระหนักในข้อนี้ให้มากที่สุด ถึงตอนนี้ผมจะอยู่ในคราบของหมีตลอดกาล ผมก็มีความสุขตามประสาหมีๆกับเจ้าโคด้า เพื่อนหมีตัวน้อยของผม
แต่เอ... นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" หรือ "เศรษฐกิจพอเพียง" ดีน๊า
ผลงานอื่นๆ ของ Wolf ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Wolf
ความคิดเห็น